ปัจจุบันธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทยให้มีการขยายตัวและเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากและเป็นช่องทางตลาดที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ธุรกิจไทย กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจไทยใช้ e-Commerce เป็นเครื่องมือในการขยายธุรกิจและขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ดังนี้
1. สร้างและพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจให้ใช้ e-Commerce ในการเริ่มต้น หรือขยายธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในด้านการจัดทำร้านค้าออนไลน์ การบริหารจัดการ และ การตลาด เนื่องจากการมีหน้าร้านออนไลน์ ไม่เพียงพอต่อการประกอบธุรกิจ ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี และมีการใช้กลยุทธ์การตลาด เช่นเดียวกับธุรกิจอื่น โดยในส่วนของธุรกิจ e-Commerce ต้องมุ่งเน้นความซื่อสัตย์ และมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการ และสินค้า/บริการที่จะสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจ
2. ยกระดับขัดความสามารถทางธุรกิจ โดยการจัดทำเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจ e-Commerce ที่เทียบเคียงมาตรฐานการรับรองความน่าเชื่อถือ Trustmark ระหว่างประเทศ การอบรมบ่มเพาะพัฒนาธุรกิจให้เข้าสู่มาตรฐานคุณภาพธุรกิจมีการบริหารจัดการที่ดี เป็นที่ยอมรับในตลาดทุกระดับ ซึ่งประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่
1. ด้านการเปิดเผยข้อมูลของธุรกิจและสินค้า/บริการ อย่างถูกต้อง ชัดเจน และเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
2. ด้านการบริหารจัดการ การยกเลิก การคืนสินค้าที่มีการกำหนดนโยบายและเงื่อนไขอย่าง ชัดเจนและเป็นธรรม
3. ด้านความปลอดภัยของระบบในการเข้าถึงข้อมูลและการดำเนินธุรกรรมของผู้บริโภค เพื่อมิให้ สามารถเข้าถึงระบบและสร้างพฤติกรรมมิชอบให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภค
4. ด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค ต้องมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน และมีการดำเนินการมิให้มีการนำข้อมูลของผู้บริโภคไปใช้ประโยชน์ในทางอื่น ที่ทำให้เกิดการ รบกวนหรือความเสียหายแก่ผู้บริโภค
5. ด้านการระงับข้อพิพาท การแสดงความรับผิดชอบ และดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน จากผู้บริโภคอย่างเป็นธรรมและเหมาะสม
3. การสร้างความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจ e-Commerce การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ให้ผู้ประกอบพาณิชย์กิจต้องจดทะเบียนพาณิชย์ (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2553 กำหนดให้ผู้ประกอบการพาณิชย์กิจประเภทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้พระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการพาณิชย์กิจประเภทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ดังนี้
1) การซื้อขายสินค้าหรือบริการ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งครอบคลุมถึง เว็บไซต์ ร้านค้า ใน e-Marketplace ร้านค้าในโซเชียลมีเดีย
2) การบริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider : ISP)
3) การให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Web Hosting)
4) การบริการเป็นตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace)
โดยธุรกิจที่เข้าข่าย 4 ประเภทข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรต้องยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ อบต. เทศบาล เมืองพัทยา หรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่
การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
มาตรา 19 ของพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 กำหนดว่า ผู้ประกอบพาณิชยกิจใดไม่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ แสดงรายการเท็จ หรือ ไม่มาให้นายทะเบียนพาณิชย์สอบสวน ไม่ยอมให้ถ้อยคำ หรือไม่ยอมให้นายทะเบียนพาณิชย์หรือพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ มีความผิด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท และในกรณีไม่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็นความผิดต่อเนื่อง ให้ปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งร้อยบาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
ภายหลังที่จดทะเบียนพาณิชย์แล้ว กรมฯ จะออกเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์ DBD Registered เพื่อยืนยันความมีตัวตนของธุรกิจ และเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือสามารถขอใช้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือ DBD Verified ซึ่งจะต้องผ่าน การตรวจประเมินการจัดทำเว็บไซต์ตามเกณฑ์คุณภาพมาตรฐานธุรกิจที่กรมจัดทำขึ้น และกรมฯ จะออกเครื่องหมายให้แก่ผู้ผ่านเกณฑ์ประเมิน อายุ 1 ปี และขอต่ออายุได้ปีต่อปี
เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ DBD Verified DBD Verified
คือ เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกให้แก่ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่จดทะเบียนและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ที่กำหนด เป็นการบ่งบอกว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีคุณภาพผ่านเกณฑ์ประเมินตามมาตรฐานคุณภาพธุรกิจ e-Commerce ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
1.

จะออกให้แก่บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยผ่านคุณสมบัติ เช่น จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จัดส่งงบการเงินติดต่อกัน (กรณีเป็นนิติบุคคล) รวมทั้งผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.

จะออกให้แก่ผู้ที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เฉพาะที่เป็นนิติบุคคล โดยผ่านคุณสมบัติ เช่น จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่น้อยกว่า 1 ปี จัดส่ง งบการเงินติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี รวมทั้งผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจฯ
3.

จะออกให้แก่ผู้ที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เฉพาะที่เป็นนิติบุคคล โดยผ่านคุณสมบัติ เช่น จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่น้อยกว่า 2 ปี จัดส่งงบการเงินติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี และมีคุณสมบัติอื่น ได้แก่ เว็บไซต์ได้รับเครื่องหมาย DBD Verified ระดับ Gold ต่อเนื่อง 2 ปี และกรณีที่ไม่ได้รับเครื่องหมาย DBD Verified ระดับ Gold หรือ ได้รับเครื่องหมายฯ ต่อเนื่อง ไม่ครบ 2 ปีจะได้รับพิจารณาเป็นรายกรณี เช่น ธุรกิจได้รับการรับรอง หรือรางวัลด้านการบริหารจัดการจากสมาคม/หน่วยงาน รวมทั้ง ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจฯ เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้อนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือแล้ว จะออกหนังสืออนุญาตและให้รหัสเครื่องหมายนำไปติดตั้งแสดงบนหน้าเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ที่ได้ผ่านการพิจารณา ทั้งนี้ การอนุญาต จะมีอายุ 1 ปี และสามารถยื่นขอต่ออายุได้คราวละ 1ปี
สถิติการออกเครื่องหมายรับรองฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2558)
การออกเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 12,573 ราย 14,268 เว็บไซต์
การออกเครื่องหมาย DBD Verified จำนวน 120 ราย 135 เว็บไซต์
4. สร้างโอกาสทางการตลาดและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจสู่สากล
- การจัดงาน e-Commerce Day รวมพลคนประกอบธุรกิจออนไลน์ เพื่อกระตุ้นและ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจสร้างช่องทางตลาดผ่านทางออนไลน์ ซึ่งกรมฯ จะมีการจัดเป็นประจำทุกปี และ
- จัดมหกรรมลดราคาสินค้าและบริการทางออนไลน์ Thailand Online Mega Sale ผ่านทางเว็บไซต์ www.ThailandMegaSale.com โดยร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชน ภาครัฐและสถาบันการเงิน สนับสนุนร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์ถูกต้องตามกฎหมาย ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่งเสริมการตลาด ให้แก่ธุรกิจ e-Commerce ที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered หรือเครื่องหมาย DBD Verified เพื่อกระตุ้นการซื้อขายทางออนไลน์และเผยแพร่ร้านค้าออนไลน์ไทย โดยเฉพาะ SMEs
ข้อมูลจาก: กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า